วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

TOTO...หลานยาย




ตอนที่หลานยังอยู่ในท้องของลูกสาว คุณยายมลก็แอบตั้งชื่อจริงไว้ เพราะความที่ลูกหลานใครๆหลายคนที่รู้จัก เกิดออกมาเค้าก็ขอตั้งชื่อให้.....
แต่...งานนี้แห้ว... ลูกสาวตั้งเองเลย และมีความหมายด้วย "เด็กชายบุณธนิต บุญยะกมล" (คุณแม่ชื่อธนิกานต์ คุณพ่อตระการ)และแถมจะเอาชื่อเล่น "นิด" เหมือนกับคุณทวด คุณยายมล ก็เลยอยากมีส่วนร่วมมั่ง ไม่เอาชื่อเล่นนี้ เอา "โตโต้" ดีกว่า เนื่องจากมีโครงการว่าหลังหย่านมจะฉกเอาตัวไปเลี้ยงที่ชลบุรี ชื่อจะได้คล้องจองจองอกับลุง คือ Thiti แต่พวกญี่ปุ่นเรียกว่า "ตีตี้ซัง" ทุกคนก็ยอม
ลุงตีตี้ กับหลานโตโต้...แจ๋วๆๆๆ
โตโต้ครบกำหนดคลอดวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒
วันที่ ๑๓ ทั้งวันก็ไม่มีอาการอะไรเลย จนตีสองแม่เค้าก็เริ่มเจ็บท้องนิดๆ ไปโรงพยาบาลเมื่อตีห้ากว่าๆ ของวันที่ ๑๔ คิดว่าบ่ายๆน่าจะออกมาดูโลก(อันไม่โสภา)แต่ที่ไหนได้พวกเราลุ้นกันจนหมดวันที่ ๑๔ ไปได้ ๔๒ นาที (เกินกำหนดหมอให้ ๔๒ นาที)โตโต้ก็โผล่มาสัมผัสโลกที่มีความรักของแม่ ยาย พ่อ ลุง และน้าๆ งานนี้ก็คงขาดคุณตานั่นแหละที่ไม่รอโตโต้ เอ...หรือตาจะกลับมาเกิดแล้ว มีปานดำเล็กๆ ที่ข้อเท้า เหมือนตาที่มีรอยแผลเป็นจากการแพ้ยาฆ่าหญ้าเหลืออยู่ที่ข้อเท้า เหอะๆๆ ถ้าใช่ก็แสดงว่า...ชาตินี้เราหนีไม่พ้นกัน!!
ตกลงก็คือโตโต้เกิดวันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒ น้ำหนักแรกคลอด ๓,๓๓๐ กรัม ยาว ๕๖ ซม.เลขป้ายข้อมือ ๗๗๑ คนบ้าหวยหลายคน (รวมคุณยายมลด้วย)ไปซื้อล็อตเตอรี่ ...........แห้ว...เพราะมันออก ๑๗๗ ที่ ๓ ตัวล่าง ฮา...

ดูรูปโตโต้ดีกว่า

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเดินทางมาเป็นคุณยาย


เดินทางมาเป็นคุณยาย

วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒ คุณยายมลตื่นแต่เช้า ลุกมาทำกับข้าว วันนี้จะเดินทางไปเชียงใหม่และ ก็จะต้องอยู่หลายวัน จนกว่าลูกสาวจะคลอด ก็เลยต้องเก็บผักกาดจากแปลงเล็กๆที่ปลูกไว้มาทำจอผักกาด เพราะทิ้งไว้เป็นเดือน ไม่มีคนเก็บกิน เสียดาย และ เช้าวันนี้ทำน้ำพริกอ่องด้วย
โม่ไปรับหนูแอนที่เทพประสิทธิ์(เป็นเพื่อนที่เคยสนิทกันเป็นพิเศษ) เพราะเธอจะไปส่งคุณยายมลที่สุวรรณภูมิด้วย กลับมาราวๆ ๙ โมงกว่าๆ มาทานข้าวเช้า และนั่งเล่นเน็ตสักพัก คุณยาย แพ็คกระเป๋าเสร็จ เราก็ออกจากบ้าน ประมาณ ๑๑ โมงกว่าๆ
จริงๆแล้วจองตั๋ว ทุ่มสิบนาที แต่ทางสายการบินโทรมาเลื่อนเป็น ๒ ทุ่ม ๔๐ นาที ก็ยั้วะเหมือนกัน ที่ต้องโทรคอนเฟิร์มคนที่จะมารับที่เชียงใหม่วุ่นวายไปหมด แต่ที่ต้องออกเดินทางจากบ้านเร็ว หลายชั่วโมงเพราะกะว่า จะไปแวะไหว้พระที่วัดธรรมนิมิตร ไปเดินห้างใหม่ของชลบุรี (เซ็นทรัลชลบุรี) เราไปแวะกินอาหารญี่ปุ่นที่นั่นมื้อกลางวัน ราคาถูกกว่าที่เซ็นทรัลพัทยาด้วย
เดินซื้อของฝากให้ลูกๆหลานๆ ได้กางเกงขาสี่ส่วนให้ม่อน ๑ ตัว ๕๙๕ บาท (พี่โม่จ่าย) นาฬิกาให้โบกับเบียร์คนละเรือน และของน้องโบแถมที่วางมือถืออีกอัน (อันนี้คุณยายจ่าย)ที่มีพิเศษให้น้องโบเพราะน้องโบเป็นคนมารับที่สนามบิน และจะเป็นคนบริการคุณยายมลตลอดที่อยู่เชียงใหม่ รวมถึงมาส่งกลับที่สนามบินอีกด้วย (ถ้าติดตามกันมาตลอดคงจำได้ว่าน้องโบเป็นเหลนคุณยายมล)
เราสามคนเดินทางออกจากเซ็นทรัลชลบุรีประมาณห้าโมงกว่า ฝนตกหนักก็เลยมาช้าๆ ถึงสุวรรณภูมิก็เกือบหกโมง กะว่าจะเดินเล่น และถ่ายรูปเล่นในท่าอากาศยาน หาอะไรอร่อยๆ กินมื้อเย็นก่อน ค่อยเช็คอิน
เมื่อทานข้าวเรียบร้อยมาเช็คอิน ก็หงุดหงิดอีกรอบเพราะเที่ยวบินถูกเลื่อนเป็น ๓ ทุ่ม ๑๐ นาที แต่ก็ไม่รู้จะทำไงได้ แต่ก็ต่อว่าไปนิดหน่อยพอให้หายใจโล่ง
คุณยายโทรศัพท์เลื่อนน้องโบอีก ว่ายายจะถึงประมาณไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง
ความเป็นจริงก็คือ เครื่องออกตั้ง ๓ ทุ่ม ๔๐ นาที
มาถึงเชียงใหม่เกือบห้าทุ่ม ความที่เอากระเป๋าเข้าไปโหลดก่อนใครเพื่อน เวลารับก็เลยโผล่นอนหน้าหงิกบนสายพานเป็นใบสุดท้าย
ฝนตกหนัก กลับมาถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน รื้อของ เก็บของ อาบน้ำเข้านอนก็เกือบตีหนึ่ง
โม่โทรมาเช็คตลอด
เห็นท้องลูกสาวแล้วอยากกินแตงโมเลย โห..มันใหญ่โตมโหราฬ น้ำหนักตั้ง ๘๘ กิโล ไม่แฝด หมอบอก แล้วมันจะตัวขนาดไหนกันนี่?
รอลุ้นอีก ๘-๙ วัน หมอนัดก่อนคลอดวันพรุ่งนี้ (วันที่ ๖)
แล้วค่อยกลับมาคุยใหม่ค่ะ.....

ถึงลูกของแม่


ถึงลูกของแม่

ตอนนี้เป็นช่วงที่ครอบครัวของเราขัดสน แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมาก (แค่พ่อไม่มีเงินซื้อนมให้แม่กินเท่านั้นเอง) ก็เดือนนี้พ่อของหนูทำงานได้ไม่กี่วันเอง เพราะเป็นวันหยุดเทศกาลสงกรานต์หลายวัน และต้องหยุดเพื่อช่วยงานทำบุญร้อยวันคุณตา พ่อของหนูทำงานเกี่ยวกับประปา ซึ่งมันทำให้พ่อหนูเหนื่อยมาก ทุกวันเสื้อผ้าจะต้องมอมแมม หน้าตาเนื้อตัวมีแต่เหงื่อ แต่พ่อก็ต้องทำ ยิ่งช่วงนี้ต้องขยันมากขึ้น เพราะแม่ไม่ได้ทำงาน และไหนจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับลูกที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พ่อกับแม่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรให้ลูกได้มากแค่ไหน
ทำใจหน่อยหนูอาจจะไม่ได้ใช้ของดีๆ สวยๆ เหมือนเด็กคนอื่น แล้วหนูคงจะเหงาหน่อยเพราะแม่คิดว่าจะมีลูกแค่คนเดียว แต่เชื่อได้ว่าความรักที่พ่อกับแม่ให้หนูนั้นจะมากพอและไม่ทำให้รู้สึกขาดแคลน
นับดูแล้วก็เหลืออีกไม่กี่สัปดาห์ ที่เราจะได้พบกัน
หนูจะเกิดเดือนกรกฎาคม หน้าฝนพอดี แม่ยังไม่รู้จะให้ชื่อหนูว่าอะไร รอให้เห็นหน้าก่อนถึงจะนึกชื่อออก และพอถึงตอนนั้นแม่ก็คงไม่เหงาเหมือนตอนนี้ เพราะพ่อของหนูไปทำงานยังไม่กลับถึงบ้านเลย แม่ได้แต่รอและพยายามทำตัวให้มีปัญหาน้อยที่สุด เพราะเท่าที่พ่อของหนูต้องแบกรับภาระอยู่ในตอนนี้ก็มากเหลือเกินแล้ว แม่อยากช่วยพ่อทำงานหาเงิน แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่าแม่กำลังตั้งครรภ์ ไม่มีบริษัทไหนอยากรับแม่เข้าทำงาน เพราะกลัวว่าแม่จะทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เขาบริษัทพวกนั้นเขาคงลืมนึกไปว่าคนท้องก็ยังต้องกินต้องใช้ เหมือนกัน................

คุณยายมลแอบอ่านของลูกสาว...เรียกน้ำตาคุณยายได้หลายหยด ก็เลยเอามาลงไว้เตือนใจคนเป็นแม่ ว่าทิ้งลูกสาวได้ลงคอ
แต่..ตอนนี้ก็มาดูแลลูกและหลานที่กำลังจะเกิดมาดูโลกอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้