วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

เรื่องร้อยวันของพ่อ...ขออ้วนเล่ามั่ง...










พ่อครับ,


อ้วนคิดถึงพ่อจัง
เมื่อสักวันที่ 16 เมษา แม่กับพี่โม่เอาอะไรไม่รู้มาแปะรอบกระจกรถสีมืดๆ ได้ยินแม่พูดว่า... มันป้องกันความร้อนได้ แอร์ทำงานไม่หนักด้วย อ้วนไม่รู้เรื่องหรอก เพราะมันคงไม่ใช่เรื่องของหมา
และเมื่อเช้าวันที่ 19 เมษายน แม่ก็ล้างรถ เช็ดรถ ขนเอาข้าวของเยอะแยะ มีกระเป๋าเสื้อผ้าของแม่กับพี่โม่ด้วย มาใส่กระโปรงหลังรถ
สักพัก พี่โม่ก็บอกแม่ว่า
"แดดออกละ เดี๋ยวโม่จะอาบน้ำให้ไอ้อ้วน ไม่อาบเดี๋ยวเหม็นในรถ"
แล้วอ้วนก็โดนอาบน้ำฟอกแชมพู ถึงอ้วนไม่ค่อยชอบน้ำเท่าไหร่นัก แต่ก็รู้สึกสบายดี เลยไม่ดิ้นขัดขืนพี่โม่เลย หอมตัวเองด้วยแหละพ่อ
พอตกเย็น แดดลับ แม่กับพี่โม่ก็จับอ้วนขึ้นรถ แม่ล็อคกุญแจบ้าน อ้วนเห็นแม่จุดไฟเผาไม้อะไรสักอย่างหลายก้านด้วย มีกลิ่นหอมๆเหม็นๆชอบกล แล้วแม่ก็พูดอะไรไม่รู้งึมๆงัมๆ กับพื้นดินใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน
จับใจความได้ว่า จะเอาโกศกระดูกพ่อไปเชียงใหม่ ไปทำบุญร้อยวัน แม่เที่ยวเดินไปบอกคนที่อยู่ใกล้ๆบ้าน อ้วนได้ยินว่า "ฝากดูแลบ้านด้วยนะคะ"
อ้วนแอบดีใจจังจะได้ไปบ้านเชียงใหม่...อ้วนกระโดดในรถ เลยถูกพี่โม่เอ็ดเอา แถมเงื้อมือจะตีด้วย
นานแล้วตั้งแต่พ่อไม่อยู่ อ้วนก็ไม่เคยนั่งรถไปไหนเลย ไม่เหมือนตอนมีพ่อ ได้นั่งรถเที่ยว ไปทะเล ไปโน่นไปนี่ วันนี้ขึ้นไปนั่งรถ อ้วนอึดอัดมาก มันมืดๆ จากที่แม่เอาอะไรมาแปะกระจกรถ อ้วนเวียนหัว มองอะไรก็ไม่ชัด พี่โม่เอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่แม่เอาให้อ้วนนอน มาปูทับบนเบาะหลัง แล้วก็บังคับให้อ้วน "นอนๆๆๆ" ตลอดทาง
พี่โม่ขับรถออกจากบ้านไปตามถนน (ที่อ้วนก็ไม่รู้จัก เพราะทุกทีไปกับพ่อ หันหน้ารถไปอีกทาง สงสัยวันนี้ไม่ไปทะเลเหมือนพ่อเคยพาไป) อ้วนตื่นเต้นมากๆ มีรถรามากเหลือเกิน คันใหญ่ๆ อ้วนก็เลยส่งเสียงแบบทำให้พี่โม่ตกใจเลย ได้ยินแม่พูดกับพี่โม่ว่า
"อ้วนมันกลัวรถคันใหญ่ๆ ที่เสียงดังๆ ตั้งแต่อยู่เชียงใหม่ คงจะเป็นเพราะเคยถูกรถเฉี่ยวเมื่อตอนเล็กๆ เลยฝังใจ เคยถูกมอไซทับขาด้วย" แต่อ้วนเลือนๆ นะพ่อ จำไม่ชัดเท่าไหร่
วันนี้พี่โม่ดุจัง เดี๋ยวก็เอ็ด เดี๋ยวก็ตีอ้วน ก็มันตื่นเต้นจริงๆนี่พ่อ แต่พี่โม่ตีไม่แรงหรอก อ้วนรู้ว่าพี่โม่เจ็บแขน อ้วนก็เลยไม่เจ็บ แหะๆแกล้งทำเป็นเจ็บเอง...
เดี๋ยวก็แวะจอดตรงถนนแคบๆ มีหลังคา มีห้องเล็กๆ คนอยู่ข้างใน เอากระดาษยื่นให้พี่โม่ พี่โม่ก็เอากระดาษ (แม่บอกว่าเป็นสตางค์ 30 บาท) ยื่นให้เขา อ้วนเสียดายตังค์ ก็เลยเห่า ถูกเอ็ดอีกละ
ขับไปได้สักพักใหญ่ๆ ก็ทำอย่างเดิม อ้วนแอบนับตามประสาหมา ได้ 4 หนแน่ะพ่อ มารู้ตอนหลัง เมื่อแม่พูดกับพี่โม่ ว่าเป็นด่านเก็บเงินค่าทางด่วน มนุษย์นี่อะไรก็ใช้เงินหมดเลย ค่าหนทางก็เสียเงิน ดีละที่อ้วนเกิดเป็นหมา ไม่งั้นคงปวดหัวแย่เลย
อ้วนไม่ยอมกินอะไรเลยตลอดทาง มันตื่นเต้น ไม่หิวเลย จิบน้ำนิดเดียวเอง
มาถึงเชียงใหม่เช้ามืด อ้วนจำได้ นึกออกละว่าเคยอยู่ที่นี่ อ้วนลงรถได้ ก็กระโดดถีบประตูที่เขาเรียกว่ามุ้งลวด เข้าไปในบ้านเลย ตามหาพ่อที่ไหนก็ไม่มี แม่เรียกอ้วนมาแล้วลูบหัวอ้วน แม่พูดเสียงเครือๆ ว่า
"อ้วนไม่ต้องหาพ่อหรอก พ่อไปสวรรค์แล้ว พ่อไม่อยู่กับเราแล้ว "
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าสวรรค์มันอยู่ไหน แต่ก็เชื่อแม่ อ้วนนอนพัก แม่ลูบหัวแล้วชมว่า "เก่งๆๆๆ"
อ้วนวิ่งไปในกรงที่อยู่ในสวน นึกออกลางๆ ว่ามีหมาหลายตัว แต่ตอนนี้เหลือ แม่มะหมี่ของอ้วนตัวเดียว พอจำได้บ้างว่าแม่ยกให้คนอื่นไปช่วยเลี้ยง 2-3 ตัว แม่มะหมี่ดีใจที่เห็นอ้วน แต่อ้วนก็ยังงงๆ ว่า อ้วนตัวสีดำ แต่แม่สีน้ำตาล ใช่แม่เราป่าวเนี่ย...
อ้วนอยู่ที่เชียงใหม่ แม่กับพี่โม่ไม่ล่ามเลย ปล่อยวิ่งเล่นในสวน อ้วนแอบกระโดดน้ำเหมืองข้างบ้านลงเดินเล่น น้ำไม่ลึก เย็นสบายดี ขึ้นมาตัวเปียก ก็...โดนดุอีก ช่างมันเถอะ...ดุก็ช่างเพราะมันสนุกดี
วันรุ่งขึ้น แม่เก็บกวาดบ้าน เห็นคนมาบ้านหลายคนเลย ขนโต๊ะ เก้าอี้ เอาเต้นท์ มากาง เอาเก้าอี้มาจัดๆ เป็นแถว อ้วนนั่งดูเฉยๆ บางทีก็เห่าคนที่อ้วนไม่เคยรู้จัก บางคนก็เอาด้ายสีขาวๆมอๆ มาวนล้อมรอบบ้าน บางคนก็เอาไก่มาต้มในน้ำเดือดๆ แล้วก็ดึงขนมันตั้งหลายตัว ได้ยินเขาคุยกันว่า จะแกงอ่อมพรุ่งนี้ อ้วนคงไม่ได้กินเพราะแม่เคยบอกว่า แกงมันเผ็ด อ้วนกินไม่ได้ ขนจะร่วง แต่อยากกินไก่จัง...พอจัดเรียบร้อย แม่ก็เรียกพวกเขามากินข้าว กินเหล้าด้วย
อีกวันต่อมา ได้ยินเขาพูดกันว่า วันที่ 23 สายๆ อ้วนเห็นพี่โม่ไปรับพระสงฆ์ที่ไหนไม่รู้ ใส่รถมา ดูเหมือนจะมี 5 รูป (อ้วนเริ่มนับจำนวนเก่งละพ่อ) พระมานั่ง ร้องเพลงหรืออะไรไม่รู้นานเหมือนกัน อ้วนไม่เห็นเพราะตอนนี้โดนล่ามแล้ว ได้ยินแต่เสียง สักพักก็มีคนยกข้าวไปให้พระ มีไอติม มีผลไม้ตั้งหลายอย่าง ไม่นานนัก พระก็เอาใบไม้จุ่มๆน้ำในขันใบใหญ่ที่มีคนถือให้ พระเอาน้ำสลัดใส่คนโน้นทีคนนี้ที คนที่ถูกน้ำก็ยกมือไหว้ แล้วก็ว่า "สาธุๆๆ" ลงมาหลังบ้านที่อ้วนนอนอยู่ อ้วนก็โดนน้ำด้วยนะพ่อ อ้วนว่าไม่เป็นอย่างคน ก็เลยเห่าและกระดิกหางด้วย
พวกคนหลายๆคนที่มาบ้านเรา (ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ๆ) ก็นั่งล้อมวงกินข้าวกลางวัน สักพักก็กลับกัน เหลืออีกพวกหนึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยแก่ เขาช่วยกันล้างถ้วยชามกองเบ้อเริ่ม เสร็จแล้ว แม่ก็ไปซื้อเหล้าเบียร์มาให้พวกเขานั่งกินกัน จนดึกเลยถึงเลิก
ตอนดึกพวกเขากลับกันหมดแล้ว พี่โม่ก็เมาแล้ว นอนแล้ว พี่เมก็นอน พี่ปูก็นอน พี่ม่อนก็ขับรถให้ลุงหมานป้าแอ๊ด กลับกันหมดละ เห็นแม่เก็บกวาด ล้างถ้วย ล้างแก้ว คนเดียว จนดึกมากเลย สงสารแม่จัง
เช้าวันนี้ตื่นขึ้นมาเห็นแม่แต่งตัวแปลกๆ ไม่เป็นเสื้อสีดำๆเหมือนเคยใส่ อ้วนไม่รู้ว่าทำไม แม่สวมเสื้อลายดอกไม้ ไปกับพี่โม่ และพี่วิข้างบ้าน บอกว่าจะไปกินข้าวบ้านฝรั่ง ปล่อยอ้วนอยู่กับพี่เม พี่ปูที่บ้าน
แม่กลับมาตอนเที่ยงๆ พี่โม่จับอ้วนอาบน้ำอีก อ้วนก็เลยเดาว่า วันนี้คงนั่งรถอีกละ แม่ขนของใส่รถ แล้วพี่โม่ก็ขับออกมา พี่เม กับพี่ปูออกมาส่งยกมือไหว้ด้วย อ้วนได้ยินแม่บอกพี่เมว่า
"อย่าลืมจุดธูปบูชาโกศพ่อ ทำความสะอาดทุกวัน ปัดฝุ่นทุกวันนะ"
พี่โม่ขับมาบ้านใครไม่รู้ ไกลจากบ้านเราที่แม่ริม ตอนหลังรู้ว่าเป็นเพื่อนแม่ บ้านนี้มีหมาเยอะมาก แต่อ้วนไม่กลัวพวกมัน มันก็ไม่กลัวอ้วน เราเห่ากันเต็มบ้าน จนแม่พูดกับเพื่อนแม่ไม่รู้เรื่อง แม่ก็เลยออกมา พากันขับรถมาตามถนน อ้วนนอนบ้างยืนมองถนนหนทางบ้าง จำได้ละ เป็นทางกลับบ้านพี่โม่... พี่โม่ขับบ้าง จอดแวะจูงอ้วนเดินเล่นบ้าง เอาน้ำ ข้าวให้อ้วนกิน แต่อ้วนกินน้ำอย่างเดียว
ฟ้าสาง เราสามคน อ้อ.. 2 คนกับ 1 ตัว ก็มาถึงบ้านที่ชลบุรี....
ถึงเสียที เพลียมาก...ไม่ได้หลับเลย..
อ้วนไม่ตามหาพ่อละ จำคำแม่ได้ ว่าพ่อไปสวรรค์แล้ว
อ้วนลูกรักของพ่อ...